วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567

แนะนำข้อมูลการศัลยกรรมตกแต่งถุงไขมันใต้ตา ตาล่าง รอยย่นใต้ตา โรงพยาบาลยันฮี

แนะนำผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา ติดต่อจิ (ยันฮี) 0934493626 ตัดถุงไขมันใต้ตายันฮี ตาล่าง ราคาตัดถุงไขมันใต้ตาที่ยันฮี ราคาผ่าตัดถุงใต้ตาที่ยันฮี  ส่วนลดผ่าตัดถุงใต้ตา เสริมซิลิโคนใต้ตา






ผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา ตาล่าง
          ถุงไขมันใต้ตาเกิดจากการป่องนูนของไขมันบริเวณใต้ดวงตา ซึ่งปกติจะถูกกั้นไว้ด้วยกล้ามเนื้อเปลือกตาที่แข็งแรงทำให้ดูเรียบตึง แต่ด้วยปัจจัยต่าง ๆ หลายประการ เป็นต้นว่า การขาดการดูแล ความเครียด และวัยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไขมันส่วนนี้ค่อย ๆ นูนพองออกมาทีละน้อย ๆ จนเห็นได้ชัดขึ้นทุกที
         การผ่าตัดลดถุงไขมันใต้ตาถือเป็นการผ่าตัดที่เล็ก ถ้าร่างกายไม่มีปัญหาสุขภาพใด ๆ สามารถผ่าตัดได้เลยในวันที่ไปพบแพทย์ โดยก่อนผ่าตัดแพทย์จะตรวจสภาพของถุงไขมันใต้ตาเพื่อวางแผนการรักษา สิ่งที่ควรพกติดตัวมาด้วยก็คือ แว่นกันแดด เพื่อใช้อำพรางดวงตาหลังผ่าตัด และทางที่ดีไม่ควรขับรถเองเพราะหลังผ่าตัดการใช้สายตายังไม่สะดวกมากนัก

การเตรียมตัวผ่าตัดถงไขมันใต้ตางไขมันใต้ตา
          1.  ตรวจเช็คสุขภาพตนเองว่าไม่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบการหยุดเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือเลือดหยุดยาก
          2.  งดบุหรี่ 1 เดือน และงดแอลกอฮอล์ 1วัน ก่อนการผ่าตัด ตาล่าง หรือศัลยกรรมถุงไขมันใต้ตา
          3.  งดวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุง เช่น แอสไพริน และวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี  น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด
          4.  งดน้ำงดอาหารก่อนการผ่าตัด 6   ชั่วโมง

ขั้นตอนการผ่าตัดตาล่าง หรือถุงไขมันใต้ตา โรงพยาบาลยันฮี
                เริ่มจากแพทย์จะใช้ยาชาฉีดบริเวณผนังเปลือกตาล่าง ร่วมกับการใช้ยานอนหลับอย่างอ่อน ๆ จากนั้นแพทย์จะผ่าเปิดผิวหนังเป็นลักษณะเส้นยาวตรงบริเวณหนังตาล่างที่อยู่ขอบใต้ขนตา เพื่อตัดเอาถุงไขมันส่วนเกินที่อยู่ภายใต้หนังตาล่างออก แล้วจึงตัดเย็บกล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณเปลือกตาล่างที่หย่อนให้เรียบตึง จากนั้นเย็บปิดแผลด้วยไหมเส้นเล็กโดยซ่อนรอยเย็บเอาไว้ด้วยการเย็บให้ชิดกับขนตาล่าง ซึ่งเมื่อแผลหายสนิทแล้วแทบจะไม่สามารถสังเกตเห็นรอยแผลได้เลย ส่วนเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดก็เพียงแค่ 45-60 นาทีเท่านั้น และหลังผ่าตัดแพทย์จะให้นอนพักฟื้นราว ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ยาชาและยานอนหลับหมดฤทธิ์เสียก่อนจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
                หลังผ่าตัด สิ่งที่ควรปฏิบัติก็คือ หมั่นประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากและรอบดวงตา โดยเฉพาะในช่วง 2 วันแรกหลังผ่าตัด รวมถึงนอนยกศีรษะสูงไว้ เพื่อลดอาการบวมจากการคั่งของเลือดและของเหลวภายใน รับประทานยาแก้อักเสบ ยาลดบวม และทายาขี้ผึ้งเคลือบที่แผลตามแพทย์สั่ง ควรงดการใช้สายตาในช่วงแรก ๆ เช่น การดูทีวีหรืออ่านหนังสือ เพราะอาจทำให้แผลอักเสบและหายช้าได้ ในรายที่ใส่คอนแทคเลนส์ให้เปลี่ยนไปสวมแว่นแทนในช่วงสัปดาห์แรกหรือจนกว่าจะหายบวม เนื่องจากการดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์อาจทำให้แผลผ่าตัดแยกได้

                แม้ว่าการผ่าตัดลดถุงไขมันใต้ตาจะเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากอะไร แต่ก็ควรทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การเกิดหนังตาปลิ้น แทนที่คุณจะได้เปลือกตาล่างที่เรียบสวยสมดังใจ กลับต้องมาตามแก้ปัญหาไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการผ่าตัดก็คงเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจได้ไม่น้อย ฉะนั้น อย่าเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

ราคาผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา ถุงตาล่าง ผ่าตัดตาล่างที่ยันฮี
  - ราคาผ่าตัดตาล่าง ผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา       17,500 บาท
  - ราคาแก้ไขผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา                  30,500 บาท
* ราคารวมค่ายาค่าผ่าตัด ชำระเพิ่มค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท

update ล่าสุด  2024





แนะนำ การศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม โรงพยาบาลยันฮี

update 2024 ตัดกราม เหลากราม ลดมุมกราม ศัลยกรรมผ่าตัดวีไล ปรับรูปหน้า ตัดกรามวีไล ตัดกรามวีไลน์ที่ยันฮี



แนะนำตัดกราม เหลากราม ศัลยกรรมหน้าเรียว ราคาตัดกรามที่ยันฮี โรงพยาบาลยันฮี ติดต่อ จิ(ยันฮี) 0934493626





ศัลยกรรม ตัดกราม เหลากรามยันฮีเพื่อแก้ไขรูปหน้าเรียวสวย


                ความนิยมเกี่ยวกับรูปหน้าเรียวเล็กนั้นไม่เคยตกสมัย แต่สาว ๆ ที่มีใบหน้าส่วนล่าง (กราม) บานกว้างเป็นเหลี่ยมก็อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจไป เพราะปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัดตกแต่งมุมกราม ทำให้เหลี่ยมที่กว้างใหญ่เล็กลง ใบหน้าจึงดูแคบเรียวและอ่อนโยนขึ้น
                ปัจจุบัน การผ่าตัดกราม (เหลากราม) ให้เล็กลงนิยมทำกันมากขึ้น วิธีการนั้นค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานนักและได้ผลดี แต่ก่อนจะพูดถึงขั้นตอนการทำ มาทำความเข้าใจโครงสร้างของใบหน้าส่วนล่างที่ทำให้หน้าดูกว้างกันก่อน
                โครงสร้างของใบหน้าส่วนล่างที่ทำให้หน้าดูกว้างประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนมุมของกระดูกขากรรไกรล่างยื่นออก และ กล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวอาหารที่เกาะบนส่วนมุมนั้นหนาตัวกว่าปกติ แต่ใช่ว่าในการผ่าตัดแพทย์จะตัดแต่งทั้งสองส่วนดังกล่าวไปพร้อมกัน ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะตัดแต่งเฉพาะส่วนที่เป็นกระดูกยื่นเท่านั้น เพราะกล้ามเนื้อที่เกาะอยู่จะหดตัวเล็กลงได้เองในภายหลัง จึงไม่จำเป็นต้องตัดแต่งอีก
                สำหรับการผ่าตัดกรามให้เล็กลงโดยทั่วไปมีด้วยกัน 2 วิธี แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด เริ่มแรกผู้มารับการรักษาจะต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจดูโครงสร้างของกระดูกขากรรไกรเสียก่อน เช่น ความหนา ความสูง รวมถึงความสมดุลของกระดูก เพื่อประเมินว่าควรตัดแต่งลดเหลี่ยมมุมของกระดูกมากน้อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสม
                สำหรับการผ่าตัดกราม วิธีแรกเป็นการผ่าตัดภายนอกช่องปากโดยผ่านผิวหนังบริเวณมุมกรามโดยตรง ส่วนอีกวิธีจะผ่าตัดในช่องปากโดยซ่อนแผลไว้บริเวณซอกเหงือกด้านหลังฟันซี่สุดท้าย
                มาดูการผ่าตัดภายนอกช่องปากกันก่อน วิธีนี้จะเปิดแผลโดยตรงบริเวณมุมกรามเข้าไปที่มุมกระดูกขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้เครื่องมือแพทย์ซึ่งเป็นเลื่อยเล็ก ๆ ตัดตามตำแหน่งที่ต้องการ แม้วิธีนี้จะฟังดูง่าย หลังผ่าตัดอาการบวมก็มีน้อยและแทบไม่ต้องดูแลอะไรมาก แต่ปัจจุบันความนิยมกลับลดน้อยลงเนื่องจากมีโอกาสกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทที่มาเลี้ยงมุมปากได้ชั่วคราว และที่สำคัญคือจะมีรอยแผลผ่าตัด (ประมาณ 2-3 ซม.) ทั้ง 2 ข้าง
                ส่วนการผ่าตัดภายในช่องปาก แม้จะต้องอาศัยความชำนาญและเครื่องมือพิเศษที่สามารถเลื่อยกระดูกที่ต้องการตัดแต่งได้ในซอกแคบ ๆ กว่าวิธีแรก แต่นั่นมิใช่อุปสรรคสำหรับศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่สำคัญวิธีนี้จะผ่าโดยผ่านซอกเหงือกด้านหลังฟันกรามไปยังมุมกระดูกขากรรไกร จึงไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อมุมปาก อีกทั้งสามารถตัดแต่งได้ตลอดกระดูกขากรรไกร เนื่องจากสามารถเปิดแผลได้ยาวกว่าโดยไม่ต้องคำนึงถึงแผลเป็นทำให้ได้กระดูกกรามที่โค้งเนียนขึ้น
                การผ่าตัดกรามจากภายในช่องปากจะมีอาการบวมโดยเฉพาะในช่วง 5-10 วันแรก ก็ไม่ต้องตกใจเพราะอาการบวมถือเป็นเรื่องปกติ โดยระยะแรกที่มีอาการบวมมักจะอ้าปากกว้างมากไม่ได้เนื่องจากมีความตึงตัวของเนื้อเยื่อรอบ ๆ ต่อมาอาการบวมจะค่อย ๆ ทุเลาลงก็จะอ้าปากได้มากขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อป้องกันข้อต่อเกิดอาการฝืด ควรหมั่นอ้าปากเพื่อขยับข้อต่อขากรรไกรบ่อย ๆ
                นอกจากนั้นในช่วง 3-4 วันแรก อาจมีอาการปวดแผลบ้าง บางรายอาจมีอาการหูอื้อเล็กน้อย เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนระหว่างผ่าตัด ก็ไม่ต้องตกใจเพราะจะเป็นอยู่ชั่วคราว หลังจากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ ใบหน้าก็จะเริ่มยุบบวมและเข้าที่ จนกระทั่งได้รูปทรงใบหน้าตามต้องการ ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังผ่าตัด
                แม้ว่าการผ่าตัดกรามจะช่วยแก้ไขรูปหน้าได้อย่างที่ต้องการ แต่กระนั้นก็ต้องอาศัยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญจริง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนา

แนะนำ การกำจัดขนถาวร กำจัดขนรักแร้ กำจัดขนหน้าแข้ง รพ.ยันฮี ติดต่อจิ 0934493626

update ล่าสุด  2024  นัดกำจัดขนรักแร้ถาวร เลเซอร์กำจัดขนรักแร้ ราคากำจัดขนถาวร
โรงพยาบาลยันฮีติดต่อจิ(ยันฮี) 0934493626  หรือ   Line id   :  0934493626
>>> โปรส่วนลดกำจัดขนถาวร กำจัดขนรักแร้ ติดต่อ จิ(ยันฮี) ส่วนลดกำจัดขนที่ยันฮี





กำจัดขนถาวร กำจัดขนรักแร้ กำจัดขนหน้าแข้ง กำจัดหนวด เครา จอน บิกินี่ เลเซอขน
แม้ว่าขน’  จะเป็นสิ่งที่มีมาตามธรรมชาติจนหลายท่านเห็นเป็นเรื่องธรรมดา  แต่สำหรับผู้ที่รักสวยรักงามแล้วคงจะไม่เห็นด้วยเป็นแน่ เนื่องจากขนทำให้ผิวพรรณขาดความเนียนเรียบ  ดูไม่เกลี้ยงเกลาสะอาดตา  ยิ่งในรายที่มีขนดกรุงรังยิ่งแลดูไม่สวยงาม จนบั่นทอนความมั่นใจในตนเองได้
การเตรียมตัวก่อนทำจะต้องหยุดกำจัดขนด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดก็ตามแล้วปล่อยให้ขนขึ้นตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ระยะหนึ่งหรือนานที่สุดเท่าที่จะทนไหว เพราะโดยหลักการของการกำจัดขนถาวร แพทย์ควรจะเห็นขนอยู่ในรากก่อนจึงจะทำให้การกำจัดขนเกิดผลสูงสุด
                การกำจัดขนแบบถาวร นิยมทำมีกัน 2 วิธี ดังนี้
               วิธีแรก จี้ไฟฟ้า หรือจี้ด้วยคลื่นวิทยุ คือการใช้ปฏิกิริยาทางเคมีหรือความร้อน หรือผสมผสานทั้ง 2 วิธีเข้าด้วยกันเพื่อทำลายรากขน โดยทั่วไปใช้การประคบเย็นเพื่อทำให้ชา ยกเว้นบางบริเวณอาจให้ยาชาทาหรือฉีดเสริม วิธีนี้สามารถใช้กำจัดขนถาวรได้ 100% แต่ต้องทำจำนวนครั้งมากพอ (ครั้งเดียวไม่หมดแน่นอน) ขนที่มีมาใหม่นั้นเป็นขนที่ซ่อนอยู่ไม่ได้โผล่ขึ้นมาทำให้กำจัดได้ไม่หมดในครั้งก่อน ส่วนขนเดิมที่ได้กำจัดออกไปแล้ว จะไม่ขึ้นมาใหม่อีก
               วิธีที่สอง การใช้เลเซอร์กำจัดขน ซึ่งแพทย์จะใช้ครีมทาให้ชาก่อนทำ สามารถกำจัดขนได้บางส่วนแต่ไม่หมดไปถาวร อาจกำจัดได้เพียง 60-80% แม้ว่าจะทำซ้ำหลายครั้ง แต่มีข้อดีคือไม่เจ็บ ขนที่เหลือเส้นจะเล็กลง บางลง สีจางลง การงอกขึ้นมาใหม่จะช้าลง หลังกำจัดไปช่วงแรกๆ จะดูเหมือนไม่มีขนเหลืออยู่ ต่อมาจึงค่อยๆ มีขึ้นมาให้เห็นอีก
                ส่วนใหญ่แล้วเวลาที่ใช้ในการทำมักขึ้นกับตำแหน่งที่ต้องการกำจัดขน เนื่องจากแต่ละตำแหน่งมีความหนาแน่นของขนไม่เท่ากัน
                ในคนปรกติทั่วไป ภายหลังการกำจัดขนอาจมีตุ่มแดงๆ เล็กน้อยขึ้นมาประมาณ 1-2 วันแล้วจางหายไป ในบางรายอาจเกิดรอยช้ำจากการสอดเข็มหรือมีสะเก็ดแผลเล็กๆ ซึ่งจะหายไปในเวลา 1-2 วันเช่นเดียวกัน ผู้รับการรักษาสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปรกติ แต่ไม่ควรว่ายน้ำหรือเล่นน้ำทะเลหลังทำประมาณ 2-3 วัน หรือใช้แปรง ฟองน้ำไปขัดถูบริเวณที่เพิ่งกำจัดขนไป
                ผลดีของการ กำจัดขนถาวร ภายหลังการกำจัดขนถาวร นอกจากจะได้ผิวที่สะอาดเกลี้ยงเกลาอย่างที่ต้องการแล้ว ในบางบริเวณ เช่น รักแร้ จะมีผลพลอยได้ตามมาด้วย กล่าวคือ ตุ่มนูนที่เคยเกิดขึ้นจากการกำจัดขนด้วยการถอนจะค่อยๆ ลดขนาดลงหรือยุบหายไป เนื่องจากการที่ขนน้อยลงหรือไม่มีเลยทำให้ไม่มีความจำเป็นในการถอนขนด้วยตนเอง จึงไม่เกิดการกระตุ้นต่อมในบริเวณนั้น นอกจากนั้นกลิ่นและรอยคล้ำใต้วงแขนจะลดและจางลงไป เนื่องจากการที่ขนถูกกำจัดหมดไปทำให้การสะสมของเหงื่อที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นลดลง และการกำจัดรากขนจะทำลายต่อมกลิ่นไปด้วยบางส่วน ดังนั้นความจำเป็นที่ต้องใช้ลูกกลิ้งน้ำหอมเพื่อดับกลิ่นซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดรอยคล้ำก็จะลดลงตามไปด้วย
                โดยปรกติแล้วการกำจัดขนถาวรในคนปรกติทั่วไปไม่มีข้อห้ามใด ๆ ในการทำ ยกเว้นคนที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เพราะวิธีการกำจัดขนโดยใช้เข็มนั้น อาจจะทำให้เกิดรอยถลอกที่ผิวหนัง แม้ว่าจะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถเป็นช่องทางที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ผิวหนังในบริเวณนั้นได้ 

ราคากำจัดขนโรงพยาบาลยันฮี
  >   ราคากำจัดขนรักแร้ด้วยการจี้คลื่นวิทยุ        19,000 บาท ( เหมา 7 ครั้ง)
  >   ราคากำจัดขนหน้าแข้งด้วยการจี้คลื่นวิทยุ  45,000 บาท 
( เหมา 7 ครั้ง)
  >   ราคากำจัดขนต้นขาด้วยการจี้คลื่นวิทยุ       55,000 บาท ( เหมา 7 ครั้ง)
ราคารวมค่าเข็ม จะจ่ายเพิ่มแค่เพียงค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท
ส่วนลด 5% กำจัดขน






สอบถามข้อมูล ราคากำจัดขนถาวร ราคากำจัดขนรักแร้ ราคากำจัดขนหน้าแข้ง นัดหมายแพทย์ ทำประวัติ รพ.ยันฮี
ยินดีให้บริการทั้งก่อน  –  หลัง ตลอดจนการมาใช้บริการที่ รพ.ยันฮี
ติดต่อส่วนลดกำจัดขนถาวร ส่วนลดกำจัดขนที่ยันฮี ส่วนลดกำจัดขนถาวรที่ยันฮี 
ติดต่อ คุณจิ(ยันฮี) 
โทร         :     0934493626
Line@      :    @kmg1881c   ( ใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ )





ส่วนลดกำจัดขนยันฮี  กำจัดขนยันฮี กำจัดขนรักแร้ เลเซอร์กำจัดขน ส่วนลดกำจัดขนจี้คลื่นวิทยุยันฮี

แนะนำข้อมูลศัลยกรรมเสริมจมูก เสริมดั้ง เติมปลายหยดน้ำ ติดต่อ จิ(ยันฮี) 0934493626

ข้อมูลโรงพยาบาลยันฮี ติดต่อจิ(ยันฮี) 0934493626 นัดหมายแพทย์เสริมจมูก เสริมดั้ง เติมปลายหยดน้ำ ราคาเสริมจมูกยันฮี






เสริมจมูก เสริมดั้ง  เติมปลายหยดน้ำ โรงพยาบาลยันฮี
           การศัลยกรรมเสริมจมูก หรือ เสริมดั้ง ในปัจจุบัน กำลังเป็นที่นิยมมาก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกสำหรับผู้หญิง หรือแม้กระทั่ง เสริมจมูกสำหรับผู้ชาย  แต่ก็มีบางท่านที่ยังกลัว ๆ กล้า ๆ  อยากสวยก็อยากแต่กลัวเจ็บ กลัวทำออกมาแล้วไม่ดี มีปัญหา สารพัดจะกลัว จริง ๆ กลัวไว้บ้างก็ดีจะได้ไม่สุ่มสี่สุ่มห้าไปทำกับสถานบริการที่ขาดมาตรฐาน
การเตรียมความพร้อม ก่อนการผ่าตัดเสริมจมูก
         ขั้นที่ 1 เริ่มต้นที่อายุ ผู้ที่จะเสริมจมูกได้ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป ถ้าใครที่อายุไม่ถึงก็อดใจรอศึกษาข้อมูลแพทย์ ศึกษาข้อมูลโรงพยาบาลไปก่อน
          ขั้นที่ 2 ตรวจเช็คสุขภาพตนเองว่าไม่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบการหยุดเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือเลือดหยุดยาก
          ขั้นที่ 3 ในกรณี ที่เป็นไซนัสอักเสบเป็นหนอง หรือเป็นหวัดมีน้ำมูก เกิดสิวอักเสบบริเวณจมูก เป็นต้น ควรรักษาอาการติดเชื้อให้ดีก่อนทำ
          ขั้นที่ 4 งดบุหรี่ 1 เดือน และงดแอลกอฮอล์ 1วัน ก่อนการผ่าตัด เสริมจมูก
          ขั้นที่ 5 งดวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุง เช่น แอสไพริน และวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี  น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด
          ขั้นที่ 6 ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัดเสริมจมูก
          ขั้นที่ 7 เตรียมทรงจมูกในฝัน หรือนำรูปทรงจมูกที่อยากได้มาให้แพทย์ดู บางคนอยากเสริมจมูกแบบนั้น อยากได้ทรงนี้ แต่ไม่บอกให้แพทย์ทราบระวังผลออกมาอาจจะไม่ได้ดั่งใจเรานะ
          ขั้นที่ 8 เตรียมความพร้อมของร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมสภาวะจิตใจให้พร้อม และควรศึกษาข้อมูลผลข้างเคียงหลังผ่าตัด เพราะหลังผ่าตัดจะได้ไม่ต้องกังวลมาก
สริมจมูก...ด้วยซิลิโคน
          สำหรับวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก ส่วนมากแพทย์จะเลือกใช้ ซิลิโคนแท่ง (Silicone) ข้อดีของซิลิโคนแท่งซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ (Synthetic prothesis) ก็คือ จะมีปฏิกิริยาต่อร่างกายมนุษย์น้อยมาก ทำให้ร่างกายสามารถรับและห่อหุ้มแท่งซิลิโคนให้ยึดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ดี
ขั้นตอนการผ่าตัด เสริมจมูก
          การผ่าตัดเสริมจมูกมีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ก่อนทำแพทย์จะให้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์สั้น เพื่อลดความวิตกกังวล และฉีดยาชารอบจมูกจะได้ไม่รู้สึกเจ็บด้วย จากนั้นจะเปิดแผลผ่าตัด และใส่ซิลิโคนที่ตกแต่งเป็นอย่างดีแล้วหลังตรวจสอบความเรียบร้อยแพทย์จะเย็บปิดแผล ตามด้วยพลาสเตอร์หรือเฝือกจมูกเพื่อป้องกันตัวจมูกและลดอาการบวมหลังเสริมจมูกแพทย์จะให้นอนพักราว 1 ชม. เพื่อให้ยานอนหลับหมดฤทธิ์ดีเสียก่อน จึงจะกลับบ้านได้
อาการหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
          หลังผ่าตัดอาการบวมจะประมาณ 2-3 วันแรก ช่วงนี้อยากเน้นให้ประคบความเย็นบ่อยๆ เพื่อลดอาการบวมและเพื่อให้เลือดหยุดไหล หลังจากอาการบวมเริ่มยุบ หลังจากนั้นถ้ามีรอยฟกช้ำให้ใช้น้ำอุ่นแทน, นอนศีรษะสูง, ในช่วง 2 สัปดาห์แรกให้หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และกลับมาพบแพทย์ตามนัด
          โดยทั่วไป การผ่าตัดเสริมจมูกจะเข้าที่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ในช่วงนี้ให้ระมัดระวังเรื่องการโดนกระแทก เพราะแท่งซิลิโคนจะถูกเนื้อจมูกห่อหุ้มจนแน่นและสามารถทนแรงกระทบได้มาก ๆ ต้องใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน

แนะนำข้อมูล ตกแต่งปากบาง ปากกระจับ โรงพยาบาลยันฮี ติดต่อ จิ(ยันฮี) 0934493626

update ล่าสุด  2024  ติดต่อนัดหมายตกแต่งปากบาง ตกแต่งปากกระจับที่ยันฮี ราคาปากกระจับที่ยันฮี ติดต่อจิ (ยันฮี) 0934493626




ตกแต่งปากบาง ปากกระจับ  ตกแต่งปากบน ตกแต่งปากล่าง
การศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปากให้บาง แพทย์จะทำการประเมินจากรูปปาก ร่วมกับโครงสร้างบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นตา จมูก คิ้ว โหนกแก้ม หน้าผาก คาง รวมทั้งประเมินร่วมกับโครงสร้างของฟัน เพื่อให้ริมฝีปากบนและล่างได้สัดส่วน และรับกับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ โดยรูปทรงปากที่ได้รับความนิยมคือ ปากบาง ปากกระจับ

ศัลยกรรมตกแต่งปากบาง ปากกระจับ
การตกแต่งริมฝีปากให้บางลงหรือให้เป็นรูปกระจับนั้น เหมาะสำหรับคนที่ปากหนา ปากห้อย มีเนื้อปากค่อนข้างมาก หรือคนที่ปากบาง มีเนื้อปากน้อย แต่อยากตกแต่งให้เป็นรูปกระจับก็สามารถทำได้ หรือในบางคนที่ปากมีขนาดปกติแต่ปากไม่ได้รูป ก็สามารถทำการตกแต่งเพื่อให้ปากได้รูปมากขึ้นได้เช่นกัน รวมถึงคนที่เคยได้รับอุบัติเหตุและทำให้มีแผลเป็นบริเวณริมฝีปากก็สามารถตกแต่งริมฝีปากให้สวยน่ามองขึ้น โดยการตกแต่งรูปทรงปากนั้นสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัด
ก่อนการผ่าตัดควรเตรียมตัวโดยการงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากทำให้แผลหายยาก, ให้งดยาแอสไพริน (Aspirin), ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) และวิตามินอี หรือ อาหารเสริมที่มีผลทำให้เลือดออกมาก ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์, เตรียมปากให้ชุ่มชื้นด้วยการบำรุงริมฝีปากหรือทาด้วยลิปมันก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ เพื่อให้แผลมีการหายที่ดีและเร็วขึ้นหลังการผ่าตัด, แจ้งประวัติการแพ้ยา หรือ อาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบัน , แจ้งโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ ให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด และแปรงฟันทำความสะอาดช่องปากก่อนเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งขั้นตอนการผ่าตัด มีดังนี้
1. แพทย์ทำการฉีดยาชาบริเวณรอบๆ ริมฝีปากและสันเหงือก ร่วมกับยานอนหลับแบบอ่อนๆ
2. เมื่อยาออกฤทธิ์จึงทำการเปิดแผลตามแนวยาวของริมฝีปากทั้งด้านบนและด้านล่าง แล้วตัดเนื้อส่วนเกินออก และทำการตกแต่งให้ได้ปากบางหรือปากกระจับตามความต้องการของคนไข้
3. จากนั้นเย็บแผลด้วยไหมละลายตามแนวการเปิดแผล และเย็บให้เป็นหยักที่ตรงกลางริมฝีปากเพื่อให้เป็นรูปปากกระจับ รอยแผลที่เกิดจากการผ่าตัดจะถูกซ่อนไว้บริเวณที่ขอบปากด้านในและด้านนอกมาบรรจบกัน ซึ่งเป็นการชนกันของริมฝีปากตามธรรมชาติ เมื่อแผลหายสนิทแล้วจะมองไม่เห็นรอยแผล
การผ่าตัดตกแต่งปากบางหรือปากกระจับใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังผ่าตัดคนไข้อาจมีอาการปิดปากไม่สนิท เพราะอาจยังจะคุ้นเคยกับขนาดปากเดิม แต่เป็นอาการที่อยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อแผลหายก็สามารถปิดปากได้สนิทเหมือนเดิม หลังผ่าตัดริมฝีปากจะค่อยๆ ยุบลง และรูปทรงของปากจะเริ่มเข้าที่ใน 2 สัปดาห์ และหายเป็นปกติภายในระยะเวลา 1-3 เดือน ซึ่งตลอดระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด คนไข้ควรดูแลแผลผ่าตัดหลังจากทำปากบางหรือปากกระจับ โดยปฏิบัติตนดังนี้
         1. ประคบด้วยความเย็น 48 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัดเพื่อลดอาการบวม
          2. รักษาความสะอาดภายในช่องปากโดยบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ
          3. ในช่วง 2-4 สัปดาห์ ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
          4. ระมัดระวังการขยับปาก การแสดงสีหน้า ในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อให้แผลสมานกันได้ดียิ่งขึ้น
          5. รับประทานยาตามที่แพทย์จัดให้ และมาพบแพทย์ตามตัดเพื่อติดตามผลหลังการรักษา  


         การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งปากให้บาง หรือการทำปากกระจับไม่น่ากลัวเลย แต่ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเสียก่อน รวมทั้งการเลือกสถานที่ที่มั่นใจว่าปลอดภัย และพบแพทย์ผู้เชียวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ



ราคาศัลยกรรมตกแต่งปากบางหรือปากกระจับสำหรับผู้ที่ไม่เคยผ่าตัดปากมาก่อน (ราคา update ล่าสุด)
-  ราคาศัลยกรรมปากบางด้านบน ปากกระจับ     16,500 บาท
-  ราคาศัลยกรรมปากบางด้านล่าง                        16,500 บาท
*  ค่าใช้จ่ายนอกจากนี้จะมีค่าบริการโรงพยาบาลเพิ่ม 250 บาท

แนะนำข้อมูล ตกแต่งสะดือ แก้ไขสะดือจุ่น โรงพยาบาลยันฮี

update ข้อมูลล่าสุด  2024 ตกแต่งสะดือจุ่น ราคาแก้ไขสะดือจุ่น , แก้ไขสะดือจุ่นที่ยันฮี ตกแต่งสะดือ





แนะนำข้อมูล ศัลยกรรมตกแต่งสะดือแก้ไขสะดือจุ่น โรงพยาบาลยันฮี ติดต่อจิ(ยันฮี) 0934493626
ยินดีให้คำแนะนำ นัดหมายแพทย์ นัดปรึกษา นัดผ่าตัด สอบถามราคา ตกแต่งสะดือยันฮี


ผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง แก้ไขสะดือจุ่น แก้ไขสะดือปูด ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด...

        สะดือ..เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่หลายคนมองข้าม  ลักษณะของสะดือที่ต่างกัน  บางท่านมีลักษณะ ที่มีเนื้อนูนออกมาที่เรียกว่า สะดือจุ่น นั้นเอง  ผู้ชายบางคนอาจจะขาดความมั่นใจในตัวเองในยามที่ต้องถอดเสื้อผ้า หรือผู้หญิงที่ต้องการให้เสื้อผ้าที่โชว์เอว  ซึ่งอาจจะเป็นจุดสนใจกับผู้คนรอบข้างได้
      การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งสะดือ  เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับท่านผู้ที่มีสะดือจุ่น  ศัลยกรรมผ่าตัดตกแต่งสะดือ เป็นการผ่าตัด ศัลยกรรมแผลเล็ก สามารถกลับบ้านได้เลยไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดมีดังนี้
        1.  ควรงดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนทำการ ผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรม  สะดือ
        2.  ควรงดยาวิตามิน อาหารเสริมก่อนผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรม  สะดือ เพราะจะทำให้เลือดแข็งตัวช้า
        3.  ควรเช็ดทำความสะอาดสะดือ ก่อนเข้ามาพบแพทย์ 

ขั้นตอนการเตรียมตัวผ่าตัดตกแต่งสะดือ แก้ไขสะดือจุ่น โรงพยาบาลยันฮี

          หลังจากพบแพทย์ปรึกษาและตกลงยินยอมทำการผ่าตัดแล้ว  ทางเจ้าหน้าที่จะให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด
          จากนั้นพยาบาลก็จะพาเราไปที่ห้องผ่าตัดเพื่อเตรียมตัวทำการผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรมสะดือ โดยขั้นตอนแรกคือ การทำความสะอาด สะดือ โดยใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดสะดือเรา  จากนั้นเป็นขั้นตอนการฉีดยานอนหลับชนิดพิเศษ ที่มีผลออกฤทธิ์  จะออกฤทธิ์ ประมาณ10-15นาที จะทำให้เราหลับไปสักพัก ระหว่างนั้นหมอจะทำการฉีดยาชาที่สะดือเพื่อทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในตอนผ่าตัด ศัลยกรรมสะดือ   พร้อมกับโกนขนที่บริเวณรอบสะดือ เพื่อทำให้สะดือเราสะอาดก่อนทำการผ่าตัด  (การโกนขนอาจจะทำในกรณีที่คนไข้เป็นผู้ชาย) จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์  การผ่าตัด จะเป็นวิธีทางการแพทย์ขึ้นอยู่กับรูปลักษณะ ของสะดือแต่ละท่าน  
         หลังจากนั้นประมาณ1-2 อาทิตย์ แพทย์ ก็จะนัดมาตัดไหม และดูแผลอีกครั้งว่า แผลแห้งและดีหรือไม่

 การดูแลหลังการผ่าตัดตกแต่งศัลยกรรม แก้ไขสะดือจุ่น

รับประทานยาปฎิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง
หลังผ่าตัด 7 วัน ควรดูแลไม่ให้แผลสกปรก และระวังไม่ให้น้ำเข้าแผลที่เย็บไว้ 

งดออกกำลังกายหนัก 1 เดือน
งดว่ายน้ำ 1 เดือนและงดดำน้ำลึก 2 - 3 เดือน
กรณีแผลโดนน้ำให้แกะพลาสเตอร์ที่ปิดแผลออกแล้วทำความสะอาดแผล ซับน้ำให้แห้ง
แผลที่เย็บไว้จะใช้เวลาประมาณ 7 วัน จะสามารถตัดไหมได้
หลังตัดไหมเสร็จแล้วแผลสามารถถูกน้ำได้ แต่ระวังอย่าถูแผลแรงเกินไปในช่วงอาทิตย์แรกหลังตัดไหมเสร็จใหม่ๆ
งดอาหารจำพวกของหมัก ดอง ของแสลง อาหารที่มีความเค็ม งดแอลกอฮอล์ และงดบุหรี่ ประมาณ 3 -4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะเริ่มหายดี
พบแพทย์ตามบัตรนัด ถ้าหากมีอาการผิดปกติ ดังนี้ ปวดแสบร้อนที่แผลผ่าตัด บวมแดงร้อน มีน้ำเหลือง หรือหนองซึม ให้รีบมาพบแพทย์ก่อนนัด

ราคาศัลยกรรมตกแต่งสะดือแก้ไขสะดือจุ่น โรงพยาบาลยันฮี ( ราคา update ล่าสุด )
              -   แก้ไขสะดือจุ่น                               20,500  บาท
              -  แก้ไขสะดือจุ่นกรณีมีปัญหาลำไส้   51,000 บาท
* ราคาศัลยกรรมตกแต่งสะดือจุ่นเป็นราคาเหมาจ่ายรวมค่ายาค่าผ่าตัดแล้ว 
* จ่ายเพิ่มแค่เพียงค่าบริการโรงพยาบาล  250 บาท


ติดต่อ นัดหมาย สอบถามราคาตกแต่งสะดือจุ่น ศัลยกรรมตกแแต่งแก้ไขสะดือจุ่น โรงพยาบาลยันฮี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อจิ(ยันฮี) 
โทร        :    0934493626
Line      :   @kmg1881c   ( ใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ )
หรือกด  ➡ https://line.me/R/ti/p/%40kmg1881c 






ราคาแก้ไขสะดือจุ่น ผ่าตัดแก้ไขสะดือจุ่น  ผ่าตัดตกแต่งสะดือจุ่น แก้ไขสะดือจุ่น ผ่าตัดตกแต่งแก้ไขสะดือ  ตกแต่งสะดือ  ตกแต่งสะดือยันฮี  แก้ไขสะดือยันฮี  เบอร์ติดต่อยันฮี


แนะนำข้อมูลการตัดกราม เหลากราม โรงพยาบาลยันฮี




update ล่าสุด  2024 ติดต่อ จิ(ยันฮี) 0934493626  ตัดกราม เหลากราม ตัดกระดูกกราม ราคาตัดกราม ผ่าตัดหน้าเรียว ศัลยกรรมหน้าเรียว ตัดกรามv-line ผ่าตัดกราม ส่วนลดตัดกรามที่โรงพยาบาลยันฮี



ศัลยกรรมตัดกราม  เหลากรามเพื่อรูปหน้าเรียวสวย  ตัดกรามยันฮี

         ปัจจุบัน การผ่าตัดกรามให้เล็กลงนิยมทำกันมากขึ้น วิธีการนั้นค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานนักและได้ผลดี แต่ก่อนจะพูดถึงขั้นตอนการทำ มาทำความเข้าใจโครงสร้างของใบหน้าส่วนล่างที่ทำให้หน้าดูกว้างกันก่อน

          โครงสร้างของใบหน้าส่วนล่างที่ทำให้หน้าดูกว้างประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนมุมของกระดูกขากรรไกรล่างยื่นออก และ กล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวอาหารที่เกาะบนส่วนมุมนั้นหนาตัวกว่าปกติ แต่ใช่ว่าในการผ่าตัดแพทย์จะตัดแต่งทั้งสองส่วนดังกล่าวไปพร้อมกัน ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะตัดแต่งเฉพาะส่วนที่เป็นกระดูกยื่นเท่านั้น เพราะกล้ามเนื้อที่เกาะอยู่จะหดตัวเล็กลงได้เองในภายหลัง จึงไม่จำเป็นต้องตัดแต่งอีก
          สำหรับการผ่าตัดกรามให้เล็กลงโดยทั่วไปมีผ่าตัดด้วยกัน 2 วิธี แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด เริ่มแรกผู้มารับการรักษาจะต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจดูโครงสร้างของกระดูกขากรรไกรเสียก่อน เช่น ความหนา ความสูง รวมถึงความสมดุลของกระดูก เพื่อประเมินว่าควรตัดแต่งลดเหลี่ยมมุมของกระดูกมากน้อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสม
          ผ่าตัดกรามวิธีแรกจะเป็นการผ่าตัดแผลภายนอกช่องปากโดยผ่านผิวหนังบริเวณมุมกรามโดยตรง ส่วนอีกวิธีจะผ่าตัดในช่องปากโดยซ่อนแผลไว้บริเวณซอกเหงือกด้านหลังฟันซี่สุดท้าย
          มาดูการผ่าตัดภายนอกช่องปากกันก่อน วิธีนี้จะเปิดแผลโดยตรงบริเวณมุมกรามเข้าไปที่มุมกระดูกขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง แล้วใช้เครื่องมือแพทย์ซึ่งเป็นเลื่อยเล็ก ๆ ตัดตามตำแหน่งที่ต้องการ แม้วิธีนี้จะฟังดูง่าย หลังผ่าตัดอาการบวมก็มีน้อยและแทบไม่ต้องดูแลอะไรมาก แต่ปัจจุบันความนิยมกลับลดน้อยลงเนื่องจากมีโอกาสกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทที่มาเลี้ยงมุมปากได้ชั่วคราว และที่สำคัญคือจะมีรอยแผลผ่าตัด (ประมาณ 2-3 ซม.) ทั้ง 2 ข้าง
          วิธีที่สองจะเป็นการผ่าตัดแผลภายในช่องปาก แม้จะต้องอาศัยความชำนาญและเครื่องมือพิเศษที่สามารถเลื่อยกระดูกที่ต้องการตัดแต่งได้ในซอกแคบ ๆ กว่าวิธีแรก แต่นั่นมิใช่อุปสรรคสำหรับศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่สำคัญวิธีนี้จะผ่าโดยผ่านซอกเหงือกด้านหลังฟันกรามไปยังมุมกระดูกขากรรไกร จึงไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อมุมปาก อีกทั้งสามารถตัดแต่งได้ตลอดกระดูกขากรรไกร เนื่องจากสามารถเปิดแผลได้ยาวกว่าโดยไม่ต้องคำนึงถึงแผลเป็นทำให้ได้กระดูกกรามที่โค้งเนียนขึ้น
         การผ่าตัดกรามจากภายในช่องปากจะมีอาการบวมโดยเฉพาะในช่วง 5-10 วันแรก ก็ไม่ต้องตกใจเพราะถือเป็นเรื่องปกติ โดยระยะแรกที่มีอาการบวมมักจะอ้าปากไม่ได้มากเนื่องจากมีความตึงตัวของเนื้อเยื่อรอบ ๆ ต่อมาอาการบวมจะค่อย ๆ ทุเลาลงก็จะอ้าปากได้มากขึนเรื่อยๆ และเพื่อป้องกันข้อต่อเกิดอาการฝืด ควรหมั่นอ้าปากเพื่อขยับข้อต่อขากรรไกรบ่อย ๆ
          นอกจากนั้นในช่วง 3-4 วันแรก อาจมีอาการปวดแผลบ้าง บางรายอาจมีอาการหูอื้อเล็กน้อย เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนระหว่างผ่าตัด ก็ไม่ต้องตกใจเพราะจะเป็นอยู่ชั่วคราว หลังจากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ ใบหน้าก็จะเริ่มยุบบวมและเข้าที่ จนกระทั่งได้รูปทรงใบหน้าตามต้องการ ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หลังผ่าตัด
          แม้ว่าการผ่าตัดกรามจะช่วยแก้ไขรูปหน้าได้อย่างที่ต้องการ แต่กระนั้นก็ต้องอาศัยศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญจริง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงปรารถนา



ราคาศัลยกรรมโรงพยาบาลยันฮี ( ราคาศัลยกรรมที่ยันฮีล่าสุด )

            -  ราคาตัดกราม(แผลด้านในช่องปาก)    90,000 บาท       นอน รพ.  2 คืน 
            -  ราคาผ่าตัดลดโหนกแก้ม  ( ตัดยุด)      98,000  บาท       นอน รพ. 2 คืน
-  เลื่อนกรามล่างแก้คางยื่น                    108,000 บาท       นอน รพ. 3 คืน
-  ตัดคางให้ยาวขึ้นหรือเล็กลง                90,000 บาท        นอน รพ. 2 คืน
-  ตัดคางเป็นรูปตัว T                              108,000 บาท        นอน รพ. 2 คืน








บริการให้คำแนะนำการรักษา ตัดกราม เหลากราม  นัดแพทย์ จองคิว ทำประวัติ 
ราคาตัดกรามโรงพยาบาลยันฮี  ตัดกรามยันฮี
ยินดีให้บริการทั้งก่อน  –  หลัง ตลอดจนการมาใช้บริการที่ โรงพยาบาลยันฮียันฮี 
ติดต่อจิ (ยันฮี) 

โทร         :    0934493626
LinE@    :    @kmg1881c   ( ใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ )
หรือกด  ➡  https://line.me/R/ti/p/%40kmg1881c 


https://jay-beauty.wixsite.com/jaybeauty-yanhee


ตัดกราม ตัดมุมกราม เหลากราม ตัดกราม v-line  ผ่าตัดกรามที่โรงพยาบาลยันฮี 
ตัดกรามหมอสุทัศน์ ลดโหนกแก้มหมอสุทัศน์  ตัดกรามหมอสมศักดิ์ 
ส่วนลดผ่าตัดกรามที่ยันฮี   ปรับรูปหน้ายันฮี ตัดกรามลดโหนกแก้มยันฮี
เบอร์ติดต่อโรงพยาบาลยันฮี

แนะนำการศัลยกรรม ผ่าตัดหน้าอกทอม ผ่าตัดหน้าอกผู้ชาย ดูดไขมันหน้าอก โรงพยาบาลยันฮี





การศัลยกรรม ผ่าตัดหน้าอก หรือการผ่าตัดเนื้อเต้านมออก ผ่าตัดเต้านมทอม โรงพยาบาลยันฮี

        ศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอก เป็นการตัดเนื้อเต้านมออกทั้งหมดและปรับแต่งผิวหนังส่วนเกินให้ราบเรียบลงไปเช่นเดียวกับหน้าอกของผู้ชายทั่วไป ทั้งนี้ มีแนวทางในการผ่าตัดเต้านมออกที่ใช้กันอยู่ใน รพ.ยันฮี มีวิธีทำ 3 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

     วิธีที่ 1.  การผ่าตัดโดยผ่าตัดเข้าที่บริเวณปานนม (แผล U หรือ O)     การผ่าตัดวิธีนี้จะเลือกเฉพาะผู้ป่วยที่มีขนาดหน้าอกเล็กและผิวหนังบริเวณหน้าอกไม่ได้หย่อนยานเกินความเป็นไปได้ของผิวหนังที่จะหดตัวลงไปได้ไม่ช้า โดยมากแล้วขนาดของเต้านมของผู้ป่วยมักมีขนาด Cup ประมาณ Cup A ถึง B วิธีนี้เป็นที่นิยมของคนไข้เนื่องจากแผลเป็นมีน้อย และมักจะซ่อนแผลได้ดีในระยะยาวมักจะมองไม่ค่อยเห็น แต่ทั้งนี้บางครั้งการหดตัวของผิวหนังไม่สม่ำเสมอ รวมกับผิวหนังที่ค่อนข้างหย่อนก็จะมีปัญหาผิวหนังเต้านมเกินได้ในบางราย วิธีนี้จะใช้ระยะเวลารักษาตัวไม่นานก็จะยุบตัวและแบนราบในที่สุด
      วิธีที่2. การผ่าตัดโดยการตัดผิวหนังของเต้านมออกร่วมด้วย  (แบบแผลรูป I scar)    การผ่าตัดวิธีนี้จะเลือกใช้กับผู้ป่วยที่มีขนาดของเต้านมค่อนข้างโตและมีผิวหนังค่อนข้างเหลือมาก การตัดเต้านมออกโดยการเอาเฉพาะเต้านมออกจะมีผิวหนังที่เหลือและจะห้อยตัวลงมาแทนจะเกิดสภาพเต้านมที่ไม่เรียบเหมือนของผู้ชาย และการแก้ไขจะทำได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นจะต้องตัดหนังของหน้าอกออกไปและเย็บให้เรียบ และจะต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งของปานนมและหัวนมด้วย (nipple and areolar graft) ผลจากการผ่าตัดด้วยวิธีนี้จึงทำให้ผู้ป่วยจะต้องมีแผลเป็นเกิดขึ้นบนหน้าอกเป็นรูปสมอเรือ (inverted T-shaped scar) ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ความรู้สึกของหัวนมจะลดลงกว่าวิธีที่ 1 (ผ่าที่ปานนม) และการหายของแผลจะใช้เวลานานกว่าวิธีที่ 1
 
   
การดูแลแผลสำหรับการผ่าตัดหน้าอก
     1.  หลังการผ่าตัดจะมีผ้าพันหน้าอกและสายระบายเลือดน้ำเหลืองออกจากหน้าอกข้างละ 1 เส้นเพื่อระบายเลือด น้ำเหลืองออกจากหน้าอกเพื่อให้หน้าอกเรียบและป้องกันการเกิดอาการเลือดคั่ง สายระบายแพทย์จะติดอยู่กับตัวจนกว่าปริมาณน้ำเหลืองและเลือดออกน้อยลงจึงจะทำการถอดสายออกให้ ทั้งนี้ส่วนใหญ่แพทย์จะถอดออกให้ก่อนที่ผู้ป่วยจะกลับบ้าน แต่ในบางรายแพทย์ถ้าปริมาณน้ำเหลืองหรือเลือดยังไหลอยู่อาจจะให้สายระบายติดตัวกลับไปด้วย แล้วนัดมาถอดออกภายหลัง
     2.  แพทย์จะนัดตัดไหมภายในระยะเวลา 1  สัปดาห์ หลังจากตัดไหมแล้วแพทย์จะปิดพลาสเตอร์ที่บริเวณรอยเย็บเพื่อทำให้แผลหายสนิทและป้องกันการแยกของแผล หลังจากการผ่าตัดประมาณ 1  สัปดาห์ ถึงจะสามารถให้แผลโดนน้ำได้แต่ไม่ควรถูหรือขัดบริเวณแผลผ่าตัดเพระอาจทำให้แผลแยกได้ กรณีมีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกจากแผลควรกลับมาให้แพทย์ดู
     3.  กรณีการผ่าตัดแบบ T- Scar แผลที่หัวนมและปานนมเป็นแผลที่เกิดจากการย้ายตำแหน่งหัวนมใหม่ซึ่งจะเป็นการปลูกหนังหัวนม แผลจะหายช้ากว่าการผ่าตัดเย็บแผลแบบธรรมดา ในระยะหลังการผ่าตัดจึงไม่ควรให้แผลถูกน้ำและไม่ควรกระทบกระเทือนบริเวณปานนม จึงควรปิดแผลไว้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดแผล ยกเว้นแผลมีการอาการแฉะหรือมีน้ำเหลืองซึมออกมามากควรรีบกลับไปให้แพทย์ล้างแผลและเปลี่ยนแผลให้
     4.  แผลเป็นที่ปานนมจะมีสีดำคล้ำในระยะเวลา 1 เดือนแรก ส่วนแผลเป็นจากการผ่าตัดจะมีการแข็ง นูนแดงได้ในระยะแรก แต่ถ้าหากแผลเป็นมีการนูนแข็งตัวและขยายตัวใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม อาจจะเกิดจากการเกิดแผลคีลอยด์ (keloid) ซึ่งอาจจะต้องมีการรักษาต่อเนื่อง
         หลังการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกสำหรับผู้ทีต้องการแก้ไขหน้าอกที่ยังไม่สวยหรือแผลเป็นที่มีปัญหา ควรจะประเมินหลังจากการผ่าตัดเต้านมประมาณ 6 – 12 เดือนขึ้นไป เพื่อให้แผลเป็นเดิมหายสนิทและไม่มีการเปลี่ยนแปลงเสียก่อนซึ่งทั้งนี้แพทย์จะผ่าตัดให้คำแนะนำเป็นระยะๆ ในการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม


ราคาผ่าตัดหน้าอก ผ่าตัดเต้มนมทอม ตัดหน้าอกโรงพยาบาลยันฮี
วิธีผ่าตัดหน้าอก ขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าอก ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากลักษณะหน้าอกของแต่ละคน
**  ราคาผ่าตัดหน้าอกแผลปานนม ( u )                86,000 บาท  นอน รพ. 2 คืน
**  ราคาผ่าตัดหน้าอกแผลใต้ราวนม ( I-SCAR )  96,000 บาท  นอน รพ. 2 คืน
🔅  กรณีน้ำหนักเกิน 70กก. คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าผ่าตัด          20,500 บาท
🔆  ตกแต่งหัวนมจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผ่าตัดหน้าอก     20,500 - 25,500 บาท
🔆  ทุกครั้งที่เข้ามาใช้บริการที่ รพ.ยันฮีจะมีค่าบริการ รพ.    250 บาท 

👉  ส่วนลดผ่าตัดหน้าอก 5% 

* ก่อนการผ่าตัดหน้าอกจะต้องตรวจกับหมอจิตเวชเพื่อออกใบรับรองแพทย์จำนวน 2 ท่านที่โรงพยาบาลยันฮี
* ราคานี้ยังไม่รวมค่าตรวจจิตเวช ราคาตรวจจิตแพทย์ท่านละ 1,500 - 2,000 บาท
ตรวจจิตแพทย์เพื่อขอใบรับรองแพทย์ควรนัดล่วงหน้าก่อนเข้ามา


update  ล่าสุด  2024





ตัดหน้าอกโรงพยาบาลยันฮี




สอบถามข้อมูลการผ่าตัดนม ศัลยกรรมตัดหน้าอก ผ่าตัดเต้านมทอม ราคาตัดเต้านม โรงพยาบาลยันฮี ติดต่อจิ(ยันฮี) 

สอบถามโปรส่วนลดตัดหน้าอก ผ่าตัดเต้านมที่รพ.ยันฮี ติดต่อนัดหมาย ติดต่อ จิ 
โทร               :   0934493626
WhatsApp  :   0934493626
Line            :   @kmg1881c   ( ใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ )
หรือกด  ➡ https://line.me/R/ti/p/%40kmg1881c